บล็อกนี้ได้ศึกษาข้อมูลจาก http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

คีตกวี

 คีตกวี คือ ผู้ประพันธ์ดนตรี มักจะใช้เรียกผู้ที่แต่งและเรียบเรียงดนตรีบางประเภท โดยเฉพาะ ดนตรีคลาสสิก โดยที่ผู้แต่งเพลงมักจะแต่งทั้งท่วงทำนองหลัก และแนวประสานทั้งหมด เพื่อให้นักดนตรีเป็นผู้นำบทเพลงนั้นไปบรรเลงอีกทอดหนึ่ง โดยนักดนตรีจะต้องบรรเลงทุกรายละเอียดที่คีตกวีได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

ตัวอย่าง คีตกวีไทย
หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)

หลวงประดิษฐ์ไพเราะ เป็นคนจังหวัด สมุทรสงคราม มีฝีมือในการตีระนาดที่หาตัวจับยาก จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง ครั้นได้ตีระนาดถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธ์ ก็ได้รับรางวัลมากมาย และได้ประทานตำแหน่งเป็น "จางวางมหาดเล็กในพระองค์" คนทั่วไปจึงเรียกว่า "จางวางศร"
นอกจากระนาดแล้ว ท่านยังสามารถบรรเลงปี่ได้ดี และสามารถคิดหาวิธีเป่าปี่ให้ เสียงสูงขึ้นกว่าเดิมได้อีก 2 เสียง
ในด้านการแต่งเพลง ท่านสามารถแต่งเพลงได้เร็ว และมีลูกเล่นแพรวพราว
ครูช้อย  สุนทรวาทิน
ครูช้อยเป็นคีตกวีผู้อาภัพ พิการทางตาตั้งแต่เล็ก และเป็นคีตกวีที่ไม่มีบรรดาศักดิ์ แต่ท่านเป็นครูปี่พาทย์ที่สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5  ท่านมีผลงานในการแต่งเพลงรวมทั้งขยายเพลงเดิม เช่น โหมโรงครอบจักรวาลสามชั้น, แขกลพบุรีสามชั้น, แขกโอดสามชั้น, อกทะเลสามชั้น, โหมโรงมะลิเลื้อย






เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์         
        ในยุคแรกๆงานประพันธ์ของเขาจะเป็นกลอนรักทั้งสิ้น บทกลอนที่ชื่อ นกขมิ้น ได้รับคัดเลือกนำไปแปลเผยแพร่ในงานกวีนานาชาติ ณ ประเทศเกาหลี
         ได้รับรางวัลซีไรท์ จากบทประพันธ์ “เพียงความเคลื่อนไหว” ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓
และเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๓ - ๒๕๓๖ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเขียนบทกวีบันทึกเรื่องราวของทุกจังหวัดไว้ในผลงานชุด "เขียนแผ่นดิน" นับเป็นผลงานเอกที่ส่งผลให้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๖

ข้อสอบ http://www.megaupload.com/?d=DXJ5DWE5

วงดนตรีไทย

             ดนตรีไทยมักเล่นเป็นวงดนตรี มีการแบ่งตามประเภทของการบรรเลงที่เป็นระเบียบมาแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันเป็น 3 ประเภท คือ
              1.วงปี่พาทย์
ประกอบด้วยเครื่องตีเป็นสำคัญ เช่น ฆ้อง กลอง และมีเครื่องเป่าเป็นประธานได้แก่ ปี่ นอกจากนั้นเป็นเครื่อง วงปี่พาทย์ยังแบ่งไปได้อีกคือ วงปี่พาทย์ชาตรี,วงปี่พาทย์ไม้แข็ง,วงปี่พาทย์เครื่องห้า,วงปี่พาทย์เครื่องคู่,วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่,วงปี่พาทย์ไม้นวม,วงปี่พาทย์มอญ,วงปี่พาทย์นางหงส์
ตัวอย่างวงปี่พาทย์

             2.วงเครื่องสาย
เครื่องสาย ได้แก่ เครื่องดนตรี ที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีที่มีสายเป็นประธาน มีเครื่องเป่า และเครื่องตี เป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ซอด้วง ซออู้ จะเข้ เป็นต้น ปัจจุบันวงเครื่องสายมี 4 แบบ คือ วงเครื่องสายเครื่องเดี่ยว,วงเครื่องสายเครื่องคู่,วงเครื่องสายผสม,วงเครื่องสายปี่ชวา
ตัวอย่างวงเครื่องสาย

             3.วงมโหรี
ในสมัยโบราณเป็นคำเรียกการบรรเลงโดยทั่วไป เช่น "มโหรีเครื่องสาย" "มโหรีปี่พาทย์" ในปัจจุบัน มโหรี ใช้เป็นชื่อเรียกเฉพาะวงบรรเลงอย่างหนึ่งอย่างใดที่มีเครื่อง ดีด สี ตี เป่า มาบรรเลงรวมกันหมด ฉะนั้นวงมโหรีก็คือวงเครื่องสาย และวงปี่พาทย์ ผสมกัน วงมโหรีแบ่งเป็น วงมโหรีเครื่องสี่,วงมโหรีเครื่องหก,วงมโหรีเครื่องเดี่ยว หรือ มโหรีเครื่องเล็ก,วงมโหรีเครื่องคู่
ตัวอย่างวงมโหรี